Sunday, 2 April 2023

ฟันฮิปโป กำลังกลายเป็นชิ้นส่วนจากสัตว์ป่าที่นักลักลอบสนใจค้าแทนงาช้าง

ฟันฮิปโป นักเคลื่อนไหวด้านสัตว์ป่าเตือนว่า ความจำกัดที่เข้มงวดเยอะขึ้นต่อการลักลอบค้างาช้างได้ก่อให้เกิดการค้าฟันฮิปโปโปเตมัสเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยอาจจะมีผลเสียอย่างร้ายแรงต่อฮิปโปโปเตมัสสายพันธุ์ที่ได้รับการขึ้นบัญชีว่า “มีแนวโน้มใกล้สูญพันธุ์” (vulnerable to extinction)

ขณะที่สหราชอาณาจักรประกาศการห้ามการค้างาช้างเกือบทั้งหมดเมื่อเดือน มิ.ย. ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา องค์กรการกุศลด้านสวัสดิภาพสัตว์ป่าได้ศึกษาความเคลื่อนไหวในตลาดออนไลน์ที่มีการใช้งานกันอย่างแพร่หลาย

ฟันฮิปโป ฮิปโปโปเตมัส

“พวกเราพบการค้าฟันฮิปโปโปเตมัสมากขึ้นเรื่อยๆในสหราชอาณาจักร”

ในช่วงหนึ่งเดือนหลังจากการห้ามการค้างาเกือบทั้งหมดมีผลบังคับใช้ แฟรงกี โอซูก ผู้นำการเขียนรายงานที่เผยแพร่โดยบอร์น ฟรี (Born Free) เมื่อเดือน ก.ย. กล่าว

นี่คือ “หลักฐานที่น่าวิตกอย่างยิ่งว่า มีความต้องการฟันฮิปโปมากขึ้น ซึ่งจำนวนฮิปโปตามธรรมชาติก็พบเจอกับการคุกคามอยู่” รายงานระบุ

บรรดานักวิจัยระบุว่า รูปแบบนี้คล้ายกับสิ่งที่เกิดขึ้นในปี 1989 ซึ่งทั่วทั้งโลกเห็นดีเห็นงามร่วมกันสำหรับการห้ามการค้างาเป็นครั้งแรก แล้วก็มีความเข้มงวดขึ้น ด้วยเหตุว่ารัฐบาลต่างๆได้นำมาตรการใหม่ๆมาใช้เพื่อการห้าม

เหมือนกับงา ฟันและเขี้ยวของฮิปโปมักถูกใช้สำหรับในการสลักเพื่อนำไปแต่งแต้มตกแต่ง แม้กระนั้นของพวกนั้นราคาถูกกว่า แล้วก็หามาครอบครองได้ง่ายดายกว่า

ส่วนต่างๆของฮิปโปยังสามารถนำไปขายภายใต้อนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งชนิดสัตว์ป่ารวมทั้งพืชป่าที่ใกล้จะสิ้นพันธุ์ (Convention on International Trade in Endangered Species of Wild Fauna and Flora –CITES) หรือ ไซเตส ได้ด้วย แต่ว่าวิธีขายในต่างชาติจะต้องมีใบอนุญาตการส่งออก

นักเคลื่อนไหวด้านสัตว์ป่าเตือนว่า ความจำกัดที่เข้มงวดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆต่อการลักลอบค้างาช้างได้ก่อให้เกิดการค้าฟันฮิปโปโปเตมัสเยอะขึ้น โดยอาจจะทำให้เกิดผลเสียอย่างร้ายแรงต่อฮิปโปโปเตมัสสายพันธุ์ที่ได้รับการขึ้นบัญชีว่า “มีแนวโน้มใกล้สิ้นพันธุ์” (vulnerable to extinction)

ตอนที่สหราชอาณาจักรประกาศการห้ามการค้างาเกือบทั้งหมดเมื่อเดือน มิ.ย. ก่อนหน้านี้ องค์กรการกุศลด้านความสะดวกและปลอดภัยสัตว์ป่าได้เล่าเรียนความเคลื่อนไหวในตลาดออนไลน์ที่มีการใช้งานกันอย่างแพร่หลาย

“เราพบการค้าฟันฮิปโปเพิ่มขึ้นเรื่อยๆในสหราชอาณาจักร ในช่วงหนึ่งเดือนหลังจากการห้ามการค้างาเกือบทั้งหมดมีผลบังคับใช้” แฟรงกี โอซูก ผู้นำการเขียนรายงานที่เผยแพร่โดยบอร์น ฟรี (Born Free) เมื่อเดือน กันยายน กล่าว

นี่คือ “หลักฐานที่น่ากังวลอย่างยิ่งว่า มีความต้องการฟันฮิปโปโปเตมัสเพิ่มขึ้น ซึ่งปริมาณฮิปโปโปเตมัสตามธรรมชาติก็พบเจอกับการคุกคามอยู่” รายงานเจาะจง

ฟันฮิปโป งาช้าง

บรรดานักวิจัยระบุว่า ลักษณะนี้คล้ายกับสิ่งที่เกิดขึ้นในปี 1989

ซึ่งทั้งโลกเห็นด้วยร่วมกันสำหรับในการห้ามการค้างาช้างเป็นครั้งแรก รวมทั้งมีความเข้มงวดขึ้น เนื่องจากรัฐบาลต่างๆได้นำมาตรการใหม่ๆมาใช้สำหรับการห้าม

เหมือนกับงา ฟันแล้วก็เขี้ยวของฮิปโปโปเตมัสมักถูกใช้สำหรับการแกะเพื่อนำไปตกแต่งตกแต่ง แต่ของพวกนั้นราคาถูกกว่า รวมทั้งหามาครอบครองได้ง่ายกว่า

ส่วนต่างๆของฮิปโปโปเตมัสยังสามารถนำไปขายภายใต้อนุสัญญากล่าวถึงการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งชนิดสัตว์ป่าและก็พืชป่าที่ใกล้จะสิ้นซาก (Convention on International Trade in Endangered Species of Wild Fauna and Flora –CITES) หรือ ไซเตส ได้ด้วย แต่ว่าการขายในต่างประเทศต้องมีใบอนุญาตการส่งออก

ชาติในแอฟริกากลางรวมทั้งตะวันตก 10 ชาตินี้จึงได้เสนอหนทางที่เรียกว่า “ความเห็นประกอบ” ซึ่งจะทำให้มีการกำหนดโควตาเป็นศูนย์ในการค้าตัวอย่างสัตว์ป่าเพื่อจุดมุ่งหมายทางการค้า แต่คำแนะนำนี้ไม่ได้รับการผลักดันและส่งเสริมจากสหภาพยุโรป หรือจากชาติต่างๆในแอฟริกาใต้แล้วก็ทิศตะวันออก ซึ่งระบุว่า ปริมาณประชากรฮิปโปยังคงอยู่ในระดับที่ดี

บางประเทศในแอฟริกาใต้รวมทั้งตะวันออก ดังเช่น แทนซาเนีย, ยูกันดา, แซมเบีย แล้วก็ซิมบับเว ยังเป็นต้นเหตุของฮิปโปราว 3 ใน 4 จากจำนวน 13,909 ตัว ที่ถูกนำชิ้นส่วนและก็สินค้าต่างๆจากฮิปโปเหล่านี้ไปขายระหว่างปี 2009-2018

โจอันนา สวาเบ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายโปรโมทของสมาคมมนุษยธรรมนานาชาติ (Humane Society International) ชี้ว่า เกือบจะไม่มีการดำเนินการอะไรก็ตามตั้งแต่ปี 2016 เพื่อรักษาปริมาณฮิปโปโปเตมัส

“แทบจะไม่มีการค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับปริมาณประชากรที่แท้จริงของฮิปโปโปเตมัสในประเทศต่างๆเหล่านี้เลย” เธอกล่าว

“เวลาที่ในเวลาเดียวกัน ประเทศเหล่านี้ทราบดีว่า กำลังเกิดอะไรขึ้นอยู่กับฮิปโปโปเตมัสภายในดินแดนของตน โดยเหตุนี้ พวกเขาไม่ควรเฉยเมย”

ฮิปโปมีอัตราการเกิดต่ำ โดยคลอดลูกเพียง 1 ตัวในแต่ละปี โดยเหตุนี้การมีปริมาณประชากรฮิปโปโปเตมัสที่น้อยลงบางทีอาจก่อให้เกิดผลกระทบในระยะยาวได้

ฮิปโป

ฟันฮิปโป ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับฮิปโป

ฮิปโปโปเตมัสทุกตัวอาศัยอยู่ในแอฟริกา โดยมี 2 จำพวกคือ ฮิปโปโปเตมัสธรรมดา (common hippo) ซึ่งคาดว่า มีประชากรราว 115,000-130,000 ในปี 2016 แล้วก็ฮิปโปโปเตมัสแคระ (pygmy hippo) ซึ่งมีประชากรราว 2,000-3,000 ตัว

ฮิปโปธรรมดาจัดอยู่ในชนิด “มีแนวโน้มใกล้สิ้นซาก” ในบัญชีแดงของสหภาพนานาชาติเพื่อการอนุรักษ์และรักษาธรรมชาติในปี 2016

มีการค้าองค์ประกอบรวมทั้งผลิตภัณฑ์ต่างๆของฮิปโปโปเตมัส 13,909 ตัว อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ระหว่างปี 2009-2018 โดย 3 ใน 4 ของฮิปโปเหล่านี้มีต้นกำเนิดอยู่ในแทนซาเนีย, ยูกันดา, แซมเบีย แล้วก็ซิมบับเว

มีการค้าฟันฮิปโปโปเตมัสอย่างถูกตามกฎหมายน้ำหนักรวม 770,000 กิโลกรัม ระหว่างปี 1975-2017 แต่ว่าไม่รู้จักปริมาณการค้าอย่างไม่ถูกกฎหมาย

ผู้ชำนาญด้านสัตว์ป่ากล่าวเหตุว่า จำเป็นจะต้องเฝ้าดูการค้าฟันฮิปโปโปเตมัสทั้งที่ถูกต้องตามกฎหมายและไม่ถูกต้องตามกฎหมายอย่างใกล้ชิด

ฮิปโปโปเตมัสธรรมดาถูกลงบัญชีในภาคผนวกที่ 2 ของไซเตส ซึ่งแสดงว่า บางทีก็อาจจะสิ้นพันธุ์ได้ ถ้าไม่มีการควบคุมการค้าอย่างเข้มงวด

10 ประเทศดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น ซึ่งกำลังพยายามให้มีการห้ามการค้าฟันฮิปโปทั่วทั้งโลก ระบุว่า มีหลักฐานที่แจ่มแจ้งว่า “มีการปนเปกันระหว่างฟันฮิปโปโปเตมัสไม่ถูกกฎหมายและถูกกฎหมาย” ทำให้ฟันฮิปโปที่ถูกลักลอบล่า “ถูกนำไปฟอกเพื่อนำไปขายในตลาดถูกตามกฎหมาย”

ถ้าเกิดว่าไม่มีการควบคุมอย่างครัดเคร่งเพิ่มมากขึ้น นักเคลื่อนไหวเตือนว่า ฮิปโปโปเตมัสอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีโชคชะตาเหมือนกับช้าง ซึ่งกลายเป็นสัตว์ที่ใกล้สิ้นซาก (endangered) หรือใกล้สิ้นซากอย่างยิ่ง (critically endangered) ในกรณีของช้างป่าแอฟริกา ด้วยเหตุว่าผู้ลักลอบล่าสัตว์ได้ฆ่าช้างป่าเหล่านี้จำนวนมากเพื่อเอางาของพวกมัน

ขอขอบคุณสำนักข่าว BBC